10/27/2552




promote web


ยินดีต้อนรับสู่คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นใช้โปรแกรมเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาของ การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหานั้นมักจะหมายถึงการปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ กับส่วนต่างๆ ในเว็บไซต์ของคุณ หากพิจารณาการเปลี่ยนแปลงแต่ละอย่าง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อรวมเข้ากับการเพิ่มประสิทธิภาพอื่นๆ แล้ว จะมีผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจนต่อประสบการณ์ของผู้ใช้ ที่มีต่อไซต์ของคุณ รวมทั้งการแสดงผลการค้นหาปกติ คุณอาจคุ้นเคยกับหลายๆ หัวข้อในคู่มือนี้อยู่แล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของทุกเว็บเพจ แต่คุณอาจยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า


promote web

เดิมทีแล้ว คู่มือฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ของ Google แต่เราเห็นว่าเนื้อหาในคู่มือนี้น่าจะเป็นประโยชน์ ต่อเว็บมาสเตอร์ผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา และต้องการพัฒนาการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้ และเครื่องมือค้นหา แม้ว่าคู่มือนี้จะไม่เผยความลับใดๆ เพื่อให้ไซต์ของคุณรั้งตำแหน่งอันดับหนึ่งเมื่อมีการค้นหาด้วย Google (เสียใจด้วย!) แต่หากปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่กำหนดไว้ด้านล่างนี้ เครื่องมือค้นหาจะสามารถทำการรวบรวมข้อมูลและ จัดทำดัชนีเนื้อหาไซต์ของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น

การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหานั้นมักจะหมายถึงการปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ กับส่วนต่างๆ ในเว็บไซต์ของคุณ หากพิจารณาการเปลี่ยนแปลงแต่ละอย่าง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อรวมเข้ากับการเพิ่มประสิทธิภาพอื่นๆ แล้ว จะมีผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจนต่อประสบการณ์ของผู้ใช้ ที่มีต่อไซต์ของคุณ รวมทั้งการแสดงผลการค้นหาปกติ คุณอาจคุ้นเคยกับหลายๆ หัวข้อในคู่มือนี้อยู่แล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของทุกเว็บเพจ แต่คุณอาจยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า


promote web



การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหานั้นมีผลเฉพาะกับผลการค้นหาแบบปกติเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงผลการค้นหาที่มีการชำระเงินหรือ “ที่มีผู้สนับสนุน” เช่น Google AdWords

แม้ว่าชื่อคู่มือนี้จะมีคำว่า “เครื่องมือค้นหา” แต่เราอยากให้คุณตัดสินใจเพิ่มประสิทธิภาพโดยพิจารณาจาก ประโยชน์สูงสุดของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณเป็นสำคัญ เพราะพวกเขาคือผู้บริโภคเนื้อหาคนสำคัญ และค้นหา ผลงานของคุณด้วยเครื่องมือค้นหานี้ การมุ่งเน้นไปที่การปรับแต่งเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อผลักอันดับในการแสดงผล การค้นหาแบบปกติจากเครื่องมือค้นหานั้นอาจไม่ใช่ผลการค้นหาที่ผู้ใช้ต้องการ การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา คือการสร้างความโดดเด่นให้กับเว็บไซต์ของคุณเมื่อเว็บไซต์ของคุณปรากฏในเครื่องมือการค้นหา
ตัวอย่างอาจช่วยอธิบายได้ดีกว่า ดังนั้นเราจึงได้สมมติเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นตัวอย่างสำหรับคู่มือนี้ สำหรับแต่ละหัวข้อ เราได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ละเอียดเพียงพอเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจถึงประเด็นต่างๆ ภายในหัวข้อนั้น นี่คือข้อมูลเบื้องต้นสำหรับเว็บไซต์ที่เราจะใช้ประกอบคำอธิบาย:
• ชื่อเว็บไซต์/ชื่อทางธุรกิจ: “Brandon’s Baseball Cards”
• ชื่อโดเมน: brandonsbaseballcards.com
• เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง: การขาย แนวทางการตั้งราคา บทความ และข่าวเกี่ยวกับการ์ดเบสบอล ทางออนไลน์เท่านั้น
• ขนาด: เล็ก ประมาณ 250 หน้า
ไซต์ของคุณอาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่ว่าไซต์ตัวอย่างนี้ และนำเสนอข้อมูลอื่นที่มีเนื้อหาครอบคลุมมากกว่า แต่รายละเอียดเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพที่เราได้อธิบายไว้ด้านล่างนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเว็บไซต์ทุกขนาดและทุกประเภท



promote web


เนื้อหาจาก : googlewebmastercentral.blogspot

10/09/2552

Tips SEO ในการ Promote website

การทำ SEO ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากคือ พอได้รู้ราวของมันมากๆแล้วจะให้ เทคนิคแตกแต่งกันไป ในการ Promote web

เว็บไซต์ค้นหาทำงานอย่างไร?

เว็บไซต์ค้นหาคืออะไร (Search Engine)

โดยปกติแล้วเมื่อจัดทำเว็บไซต์ขึ้นแล้ว จะต้องทำการประชาสัมพันธ์ เว็บไซต์ของเรา ให้เป็นที่รู้จัก เพื่อที่คนจะได้

เข้ามาดูข้อมูลที่เราต้องการเผยแพร่ได้ หากเราทำเว็บไซต์ไว้เฉย ๆ โดยไม่มีการประชาสัมพันธ์ หรือ บอกกล่าว

กับผู้คน ก็จะทำให้เว็บไซต์เรา เปรียบเสมือน หนังสือ ที่วางไว้เฉยๆ โดยไม่มีคนอ่าน หรือ ทางภาษาทางการตลาด

ว่า “เว็บตาย” นั่นเอง

10/08/2552

Thew Brain School

เป็นหลักสูตรพัฒนากระบวนการความคิดสร้างสรรค์และความคิดเชิงเหตุผลสำหรับเด็กวัย 2-6 ขวบที่พัฒนามาจากผลการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาเด็กเล็กชื่อดังของสหรัฐอเมริกาคือ ดร.บลูม และ ดร.ทอแรนซ์ และได้รับการออกแบบโดยนัการศึกษากว่า 30 คน เพื่อมุ่งเน้นให้เด็กๆ รู้จักคิดได้ด้วยตัวเองอย่างมีเหตุผลและสร้างสรรค์

หลักสูตรของ Thew Brain School ได้รับออกแบบมาเพื่อพัฒนากระบวนการความคิดของเด็กๆ อย่างเป็นระบบโดยแบ่งหลักสูตรเป็น 8 ระดับตามช่วงอายุของเด็ก โดยเด็กจะได้รับการพัฒนาทักษะความคิดตั้งแต่ชั้นพื้นฐานไปจนถึงทักษะความคิดระดับสูงโดยผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและเหมาะสมสำหรับแต่ละช่วงวัย